ยอดขายล่าสุดยืนยัน เครื่องเล่นดีวีดีและทีวีจอเล็กกว่า 55 นิ้ว เป็นเทคโนโลยีที่กำลังตกยุค
ในปัจจุบันถือได้ว่าเครื่องเล่นดีวีดีนั้นได้กลายเป็นเทคโนโลยีที่ตกยุคอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ผู้ใช้จำนวนมากหันไปใช้เครื่องเล่น Blu-ray หรือ Ultra HD Blu-ray หรือเลิกใช้แผ่นดิสก์ไปเป็นจำนวนมากแล้ว
รายงานแนวโน้มของผู้บริโภคประจำปี 2018 ล่าสุดจาก John Lewis ห้างสรรพสินค้าระดับ high-end ที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วเกาะอังกฤษได้แสดงให้เห็นว่าในปีนี้เครื่องเล่นดีวีดีได้หลุดออกจากการเป็นกระแสหลักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในปีนี้ยอดขายเครื่องเล่นดีวีดีลดลงถึง 40% แม้ผู้ค้าปลีกต่างแข่งกันลดราคาลงก็ตามที ซึ่ง ณ ตอนนี้ทาง John Lewis จึงได้คาดการณ์ไว้ว่าจะไม่มีการวางจำหน่ายเครื่องเล่นดีวีดีในตลาดอีก ส่วนเครื่องเล่น Blu-ray ยังคงมีจำหน่ายต่อไป
ไม่ได้มีเพียงแค่เครื่องเล่นดีวีดีเท่านั้นที่ยอดขายตกลงอย่างต่อเนื่อง ทีวีขนาดเล็กก็มียอดขายลดลงด้วยเช่นกัน เนื่องจากผู้ใช้จำนวนมากเลือกหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดขายทีวี 60 นิ้วนั้นเพิ่มขึ้นถึง 249% ในปี 2018 ซึ่งเป็นผลมาจากการแข่งขันฟุตบอลโลก ในขณะที่ทีวีขนาดเล็กกลับไม่ได้รับความนิยมแม้ว่าจะมีราคาย่อมเยากว่า
ย้อนกลับไปในปี 2010 ขนาดจอที่ขายดีที่สุด ณ ห้าง John Lewis คือทีวีขนาด 36 นิ้ว เมื่อเทียบกับปี 2018 กลับเป็นขนาด 55 นิ้ว ในความเป็นจริงในช่วงฟุตบอลโลกผู้ค้าปลีกได้แจ้งไว้ว่าทีวีขนาด 70 นิ้วเป็น “สินค้าทางด้านภาพที่เติบโตเร็วที่สุด”
แน่นอนว่ารายงานจาก John Lewis เป็นเพียงส่วนหนึ่งของตลาดและยังคงมั่นใจว่ามีทีวีขนาดเล็กอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังคงขายได้อยู่ในตลาดระดับล่าง
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ดีวีดีไม่ได้รับความนิยม อย่างในปีล่าสุด รายได้จากการรับชมวิดีโอสตรีมมิ่งทะลุยอดขายดีวีดีได้เป็นครั้งแรก และด้วยแผ่น HD กับบริการสตรีมมิ่งที่ง่ายต่อการเข้าถึง จึงเป็นเหตุให้ยอดขายเพิ่มสูงขึ้น และแน่นอนว่าเครื่องเล่น Blu-ray 4K สามารถเล่นแผ่นดีวีดีเก่าที่เก็บสะสมอยู่ได้
ถ้าเป็นจุดเริ่มต้นของการสิ้นสุดของดีวีดีแล้วละก่อน ดีวีดีไม่ใช่แผ่นเพียงประเภทเดียวที่ตกอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เนื่องจากยอดขายซีดีในปี 2018 ดิ่งลงด้วยเช่นกัน