เดลล์ เปิดตัวแล็ปท็อป XPS 13 ใหม่ พร้อมจำหน่ายแล้ว ในราคาเริ่มต้น 59,990 บาท
เดลล์ (ประเทศไทย) ประกาศเปิดตัวแล็ปท็อป XPS 13 ใหม่ ด้วยขนาดเล็กกะทัดรัด พร้อมรูปลักษณ์เพรียว เบา บางเฉียบยิ่งขึ้น ด้วยจอแสดงผลแบบ InfinityEdge ด้วยความละเอียดสูงระดับ 4K มีให้เลือกใช้เท่ ๆ ใน 2 สไตล์ ได้แก่ Platinum Silver และ Black มาพร้อม Rose Gold และ Alpine White
เดลล์ ได้รังสรรค์จินตนาการใหม่ให้กับ XPS 13 ด้วยแรงบันดาลใจจากแวดวงแฟชั่นซึ่งสี Rose Gold ยังคงเป็นสีที่อยู่ในเทรนด์ ในการเปลี่ยนโฉม XPS 13 ให้เป็นสีขาวนั้น เดลล์พยายามอย่างยิ่งในการเนรมิตผลิตภัณฑ์ที่เรียบหรู และสมบูรณ์พร้อม ด้วยการผนึกกำลังทีมงานกว่า 10 คน ทุ่มเทระยะเวลาการทำงานกว่า 11,520 ชั่วโมง และทำการทดลองกว่า 50 ครั้ง เพื่อรังสรรค์ระบบใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจทั้งภายในและภายนอก
ในการรังสรรค์ส่วนรองข้อมือในสีขาวที่ให้อารมณ์เสมือนเป็นลายถักทอ ทีมงานได้พิจารณาใช้วัสดุที่แตกต่างออกไป โดยก้าวข้ามข้อจำกัดด้านสีของวัสดุคาร์บอน ไฟเบอร์แบบดั้งเดิม ซึ่งทางเลือกคือการใช้วัสดุที่เป็นนวัตกรรมใหม่เรียกว่า Crystalline Silica ที่มีการถักทอออกมาเป็นสีขาวที่แท้จริง คล้ายกับเนื้อผ้าที่มีการถักทอไปมาถึงเก้าชั้น ทั้งนี้ เดลล์คือรายแรกที่ใช้การถักทอไฟเบอร์กลาสในแล็ปท็อป
การถักทอไฟเบอร์กลาสเป็นสี alpine white ช่วยเสริมความโดดเด่นให้กับฝาปิดอลูมินัมของ XPS 13 ใหม่ในสี rose gold เพื่อให้ความหรูหราในเวลาที่มอง พร้อมความเรียบลื่นยามสัมผัส สิ่งที่มาพร้อมความสวยงามคือความคงทนด้วยไททาเนียม ออกไซด์ที่เคลือบอยู่ด้านบนพื้นผิวเพื่อความเงางาม ช่วยต้านทานแสง UV และรอยเปื้อน เพื่อป้องกันการเกิดคราบ หรือการเปลี่ยนสีไปตามระยะเวลาใช้งาน ตามจริงแล้ว หากเกิดรอยเปื้อน ไม่ว่าจะจากสีของปากกา หรือคราบต่าง ๆ ผู้ใช้สามารถเช็ดออกได้อย่างง่ายดาย และด้วยความสามารถในการทนทานต่อความร้อนในระดับที่เหนือกว่าโลหะ
เดลล์ XPS 13 รุ่นใหม่ ยังให้สิ่งที่เหนือชั้นกว่าในทุกมิติ โดยปัจจุบัน เป็นแล็ปท็อปขนาด 13 นิ้ว ที่เล็กที่สุดในโลก และพกพาได้สะดวกยิ่งขึ้นไปอีก มาพร้อมจอแสดงผลแบบไร้ขอบ InfinityEdge ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ลงตัวในกรอบแล็ปท็อปขนาด 11 นิ้วได้อย่างเหมาะเจาะ โดยตัวเครื่องบางกว่าเดิมถึง 30 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 3.4 มิลลิเมตร พร้อมความเบายิ่งขึ้น โดยมีน้ำหนักเริ่มต้นเพียง 2.7 ปอนด์
ด้วยการทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 และขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ Intel 8th Generation Quad Core รุ่นล่าสุด ทำให้ XPS 13 ทำงานด้านโมบายด้วยสมรรถนะที่เหนือกว่า พร้อม SSD แบบ fast booting ความจุสูงถึง 1TB ในการใช้งาน ลูกค้าสามารถคาดหวังได้ถึงอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานที่สุดของแล็ปท็อปขนาด 13 นิ้ว โดยรองรับการทำงานได้ยาวนานถึง 20 ชั่วโมงในรุ่น FHD และสูงถึง 11 ชั่วโมงบน UHD (Mobile Mark 14) ดังนั้น นอกเหนือจากการทำให้ตัวเครื่องมีขนาดเล็กลงและเบายิ่งแล้ว เดลล์ยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของ XPS 13 ใหม่ให้สูงกว่าเครื่องรุ่นปี 2015 ถึงสองเท่า ทำให้ XPS 13 เป็นแล็ปท็อปที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในบรรดาเครื่องรุ่นเดียวกัน
XPS 13 มาพร้อม Dell Power Manager ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับสมดุลของอายุการใช้งานแบตเตอรี่ การชาร์จไฟ ความร้อน และอะคูสติค นอกจากนี้ Dynamic Power Mode จะให้สมรรถนะการทำงานในระดับสูงสุดสำหรับการใช้งาน แอพพลิเคชันต่าง ๆ อาทิ การทำวิดีโอ เรนเดอริ่ง การทำสเปรดชีตในระดับแอดวานซ์ ขณะที่มีการตรวจสอบและจัดการอุณหภูมิของระบบได้อย่างชาญฉลาด ซึ่งหมายความว่า XPS 13 จะยังคงรักษาประสิทธิภาพการทำงานในระดับสูงได้แม้มีการใช้งานต่อเนื่อง ในขณะที่แล็ปท็อปอื่น ๆ อาจมีประสิทธิภาพลดลง
ในส่วนของวิศวกรรมด้านความร้อน เครื่อง XPS 13 คือแล็ปท็อปตัวแรกของโลกที่สร้างด้วยฉนวนกันความร้อน GORE ™ Thermal Insulation ซึ่งเป็นฉนวนกันความร้อนเดียวกับ Silica Aerogels ที่ใช้งานในสภาพแวดล้อมด้านงานวิทยาศาสตร์ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงและงานวิศวกรรมแบบเต็มพิกัด เพื่อกระจายและลดความร้อน โดยวัสดุดังกล่าวถูกนำไปใช้เป็นฉนวนกันความร้อนของยานสำรวจดาวอังคาร (Mar Rovers) และการจับอนุภาคความเร็วสูง (Hyper Velocity Particle) ในโครงการอวกาศ Stardust โดยวัสดุนี้จะดึงความร้อนออกจากอุปกรณ์โดยตรง เพื่อทำให้ระบบเย็นลงในขณะที่กำลังทำงานอย่างหนัก
ด้วยจอแสดงผลที่มีความละเอียดกว่า 2.5 ล้านพิกเซลพร้อม 4K Ultra HD ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับสีที่ถูกต้องในการแสดงผล ไม่ว่าจะสำหรับมืออาชีพด้านงานกราฟิคหรือการรับชมรายการโปรด ด้วยสีสันและรายละเอียดเสียงที่คมชัดและทรงพลังมากกว่าเดิม พร้อมกับลดการบัฟเฟอร์ลง เพื่อให้ผู้ใช้รับชม Netflix หรือ iFlix ได้อย่างเต็มรูปแบบ
Dell XPS 13 ใหม่พร้อมวางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย โดยมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้นที่ 59,990 บาท จนไปถึงรุ่นท้อปราคา 79,990 บาท ซึ่งจัดเต็มทั้ง CPU Intel Core-i7 (8th generation), RAM 16GB (LPDDR3), SSD 512GB และหน้าจอความละเอียด 4K UHD Touchscreen ด้านการรับประกันเป็น premium support ยาวนานถึง 3 ปี