Wilson ตำนานลำโพงระดับไฮเอ็นด์ผู้ (ไม่) ล่วงลับ
ข่าวเศร้าล่าสุดสำหรับวงการเครื่องเสียงไฮเอ็นด์คือข่าวการล่วงลับของ Dave Wilson เจ้าของ, ผู้ก่อตั้งและผู้ออกแบบลำโพงวิลสัน ออดิโอ ลำโพงระดับไฮเอ็นด์ที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานทั้งในต่างประเทศและในประเทศไทย เป็นที่รู้จักของผู้ที่ชื่นชอบเครื่องเสียงไฮไฟในทุกระดับ
Dave Wilson หรือ David A. Wilson II ในวัย 73 ปีเสียชีวิตอย่างสงบในบ้านพักที่เมืองโปรโว รัฐยูท่าห์ สหรัฐอเมริกา ท่ามกลางภรรยาและครอบครัวเมื่อวันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากต่อสู้กับโรคมะเร็งกระดูกมาเป็นเวลายาวนาน
David A. Wilson II เกิดเมื่อวันที่ 8 กันยายน ปีค.ศ.1944 ที่ลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย เป็นบุตรของนายDavid Andrew และนาง Irene Wilson สมรสกับนาง Sheryl Lee Jamison เมื่อวันที่ 6 กันยายน ปีค.ศ.1966 มีบุตร-ธิดาด้วยกันจำนวน 4 คน ได้แก่ David A. Wilson III, Kevin A. Wilson, Daryl C. Wilson และ Deborah Dee Wilson Beaman
Dave Wilson หลงใหลในเสน่ห์ของเครื่องเสียงตั้งแต่อายุ 4 ขวบ เขาเริ่มสงสัยว่าแผ่นเสียงให้เสียงออกมาได้อย่างไร จนกระทั่งได้ฟังเสียงของลำโพง Klipschorn (ลำโพงเก่าแก่ในตำนานที่มีชื่อเสียงอีกรุ่นหนึ่ง) เขาก็ตกหลุมรักในเสน่ห์เครื่องเสียงสเตริโอจนถอนตัวไม่ขึ้น
หลังจากที่ดำเนินรอยตามวัยรุ่นที่ชอบเครื่องเสียงในสมัยนั้นด้วยการประกอบชุดคิทวงจรเครื่องเสียงชื่อดังต่าง ๆ เขาก็ได้เริ่มประดิษฐ์ลำโพงอย่างง่าย ๆ ของตัวเองขึ้นมาด้วย แต่ทั้งหมดก็ยังเป็นแค่เพียง “งานอดิเรก”
ช่วงปลายของยุค 70 ในระหว่างที่ทำงานออกแบบอุปกรณ์ทางการแพทย์อยู่ที่ Cutter Laboratories งานอดิเรกอย่างเครื่องเสียงก็ยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งเขาได้เริ่มงานบันทึกเสียงที่เน้นคุณภาพเสียงอย่างจริงจัง งานชิ้นแรกเป็นการบันทึกเพลงที่บรรเลงด้วยออร์แกนโดย James Welch เปิดตัวในปี 1977
และในช่วงปี 1980 เขาได้เริ่มประดิษฐ์ชุดลำโพงที่มีชื่อว่า “WAMM” เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์คุณภาพงานบันทึกเสียงของเขา ในช่วงเวลาเดียวกันนี้เขายังได้ร่วมมือกับทีมงานของ The Absolute Sound ซึ่งเป็นนิตยสารที่ทรงอิทธิพลในแวดวงเครื่องเสียงไฮไฟในเวลานั้น เป้าหมายก็เพื่อยกระดับอุปกรณ์ในการวิเคราะห์คุณภาพเสียงของเขา
ชื่อ “WAMM” นั้นย่อมาจาก “Wilson Audio Modular Monitor” ลำโพงชุดนี้นอกจากประดิษฐ์ไว้ใช้งานส่วนตัวแล้วยัง ผลิตออกจำหน่ายด้วย โดยเปิดตัวในปี 1981 ด้วยสนนราคาชุดละ $88,000 ทันทีที่เปิดตัวลำโพงของเขาขายได้ทันที 2 ชุด และได้นำไปโชว์ในงาน Winter Consumer Electronics Show (WCES) ปี 1982
หลังจากนั้นDave Wilson ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างลำโพงที่สมบูรณ์แบบโดยตั้งใจให้เป็นลำโพงสำหรับใช้อ้างอิงในชุดเครื่องเสียงบ้านมากกว่าที่จะให้ใช้งานในสตูดิโอ ลำโพงใน Series 3 จึงเปิดตัวในปี 1983 จากนั้นลำโพง WAMM ได้รับการปรับปรุงจนกระทั่งกลายเป็นลำโพงที่มีตู้ทรงสูงจำนวน 4 ตู้ใน Series 6
Dave ขายลำโพง WAMM ของเขาออกไปทั่วโลกเป็นจำนวน 25 ชุด ทุก ๆ ชุดเขาจะเป็นผู้เดินทางไปเซ็ตอัปและปรับตั้งมันด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการปรับตั้งไทม์อะไลน์เมนต์, อีควอไลเซชัน หรือการปรับตั้งอื่น ๆ เพื่อให้ได้เสียงที่ออกมาเที่ยงตรงและมีความกระจ่างใสมากที่สุด
หลังจากนั้นตำนานของลำโพงตระกูล WATT (Wilson Audio Tiny Tot) ก็ได้เริ่มต้นขึ้นจากไอเดียของ Sheryl Lee ผู้เป็นภรรยา โจทย์คือลำโพงที่มีขนาดเล็กลง ย่อมเยาลง แต่ยังมีคุณภาพดีพอสำหรับการใช้เป็นเครื่องมือตรวจสอบคุณภาพเสียงได้ด้วย เช่นเดียวกับลำโพง WAMM การออกแบบลำโพง WATT เริ่มต้นจากการจูนเสียงกลาง จากนั้นก็ค่อย ๆ ขยับกว้างออกไปทางด้านทุ้มและด้านแหลมทีละ octave จนกระทั่งได้ย่านเสียงที่มีความกระจ่างใส
ลำโพง WATT Series I เปิดตัวครั้งแรกในปี 1985/1986 ต่อมาเมื่อมีเสียงเรียกร้องอยากให้ตัวลำโพงตอบสนองความถี่ต่ำได้ดีขึ้น ก็มีลำโพงความถี่ต่ำรุ่น Puppy ออกมาให้ใช้งานร่วมกันเป็น WATT/Puppy ที่ตอบสนองความถี่ต่ำลงไปได้ถึง 30Hz ต่อมาลำโพง WATT/Puppy Series 2 ได้กลายเป็นลำโพงระดับราคาเกิน $10,000 ต่อคู่ที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์
ในปี 1993 วิลสันให้กำเนิดลำโพง X-1 Grand SLAMM ซึ่งเปิดโอกาสให้ตัวแทนจำหน่ายสามารถไปช่วยลูกค้าเซ็ตอัปที่บ้านได้ จากนั้นลำโพงของวิลสันก็ทยอยปล่อยออกมามากรุ่นขึ้นตั้งแต่ WATT Series 5, WITT ($8888/pair) รวมถึงซับวูฟเฟอร์อีกหลายรุ่น
จากนั้นวิลสันมีสินค้าออกมาอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นลำโพงโฮมเธียเตอร์รุ่น WATCH, MAXX, Sophia, X-1, Alexandria X-2, Sasha 1 และ 2, Alexx, Alexia 1 และ 2, Sabrina, Yvette, Alida, Mezzo, Polaris, Duette 1 และ 2, Thor’s Hammer และ TuneTot รวมถึงสุดยอดลำโพงรุ่นล่าสุดอย่าง WAMM Master Chronosonic ลำโพงทั้งหมดนี้ยังอยู่ในช่วงชีวิตของ Dave Wilson
ปัจจุบัน Wilson Audio บริหารงานโดย Daryl Wilson ประธานและซีอีโอคนปัจจุบัน ลูกชายของ Dave Wilson ซึ่งรับหน้าที่เข้ามาสานต่อตำนานบทนี้ให้ยังคงอยู่ตลอดไป