fbpx

AV Tech Guide สื่อ Online รีวิว ข่าว ความรู้ ด้านเครื่องเสียง ไฮไฟ โฮมเธียเตอร์ ทีวี สมาร์ทโฟน ไอที มัลติมีเดียและสินค้านวัตกรรม

AV Tech Guide สื่อ Online รีวิว ข่าว ความรู้ ด้านเครื่องเสียง ไฮไฟ โฮมเธียเตอร์ ทีวี สมาร์ทโฟน ไอที มัลติมีเดียและสินค้านวัตกรรม

Creative Sound Blaster AE-7 และ AE-9 ซาวด์การ์ดที่คนรักเครื่องเสียงร้องว้าว !

Creative ผู้ผลิตอุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ด้านระบบเสียงชื่อดัง เปิดตัวการ์ดเสียงรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อคนรักเครื่องเสียงอย่างเป็นทางการถึง 2 รุ่น ได้แก่ Sound Blaster AE-9 และ Sound Blaster AE-7

การ์ดเสียงทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับการออกแบบที่มุ่งเน้นในเรื่อง ‘คุณภาพเสียง’ เป็นสำคัญ เลือกใช้เฉพาะอุปกรณ์เกรดพรีเมียม ผสานด้วยเทคโนโลยีเสียงที่ทางครีเอทีฟได้พัฒนามาใหม่ล่าสุด

ด้านการออกแบบ Sound Blaster AE-9 เป็นการ์ดเสียงประเภท PCI-e รุ่นเรือธงของครีเอทีฟ มาพร้อมกับฮาร์ดแวร์คัดเกรดที่เน้นคุณภาพเสียงเช่น ชิป DAC ESS 9038 SABRE ที่รองรับการเล่นไฟล์เสียงรายละเอียดสูง PCM 32-bit 384 kHz และ DSD64 วงจรถอดรหัสเสียงที่มี jitter และความเพี้ยนต่ำ

Sound Blaster AE-9

ตัวเก็บประจุฟิลเตอร์เลือกใช้ของเกรดดีอย่างตัวเก็บประจุอิเล็กโตรไลต์ Nichicon Fine-Gold และตัวเก็บประจุแบบฟิล์มของ WIMA ส่วนของวงจรที่เลือกใช้ไอซีออปแอมป์ออกแบบให้สามารถถอดสลับเปลี่ยนตัวไอซีได้ง่าย เหมาะสำหรับคนที่ชอบจูนเสียงด้วยการเปลี่ยนไอซีออปแอมป์

อีกจุดหนึ่งที่ทำให้ Sound Blaster AE-9 โดดเด่นเหนือคู่แข่งก็คือ เทคโนโลยี CleanLine ที่ได้พัฒนามาใหม่ล่าสุดเพื่อขจัดสัญญาณรบกวนออกจากไฟเลี้ยงวงจร ทั้งยังบล็อคสัญญาณรบกวนต่าง ๆ ที่มีสาเหตุมาจากการทำงานของกราฟิกการ์ดความเร็วสูง เมื่อไฟเลี้ยงวงจรนั้นสะอาดขึ้นก็จะส่งผลให้คุณภาพเสียงที่ได้ดีขึ้นด้วยเช่นกัน

สำหรับรุ่นรองอย่าง Sound Blaster AE-7 นั้นคุณสมบัติถูกลดทอนจากรุ่นเรือธงเล็กน้อย แต่ยังถือว่ามีความโดดเด่นเมื่อเทียบกับการ์ดเสียงทั่วไป จัดเป็นการ์ดเสียงสมรรถนะสูงรุ่นประหยัดที่อัปเกรดมาจาก Sound BlasterX AE-5

โดยมา Sound Blaster AE-7 พร้อมกับชิป DAC ESS SABRE 9018 ที่รองรับการเล่นไฟล์เสียงรายละเอียดสูง PCM 32-bit 384 kHz และ DSD64 เช่นกัน และความมีเพี้ยนต่ำเพียง 0.0001%

Sound Blaster AE-7

การ์ดเสียงรุ่นใหม่ทั้งคู่ยังรองรับการถอดรหัสเสียงรอบทิศทาง 5.1 และ 7.1 surround virtualization ที่ผ่านการเข้ารหัส Dolby Digital Live หรือ DTS Connect

ส่วนของวงจรขยายเสียงสำหรับหูฟังเป็นเทคโนโลยี Xamp ของครีเอทีฟ ที่แยกวงจรขยายของแชนเนลซ้ายและขวาเป็นอิสระจากกัน เพื่อขจัด crosstalk distortion หรือความเพี้ยนที่เกิดจากการรบกวนกันระหว่างช่องเสียง ส่วนของวงจรขับเสียงมีเอาต์พุตอิมพิแดนซ์ต่ำเพียง 1 โอห์ม และมีกำลังมากพอที่จะขับหูฟังที่มีอิมพิแดนซ์สูงถึง 600 โอห์มได้

ส่วนของ Audio Control Module (ACM) หรือชุดควบคุมเสียงแบบแยกส่วน ได้รับการออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด ใช้งานได้ง่ายขึ้น มีจอแสดงผล ปุ่มปรับความดังเสียง และขั้วต่อต่าง ๆ พร้อมใช้งานทั้งช่องเสียบหูฟังและไมโครโฟน รวมทั้ง +48V Phantom power สำหรับไมโครโฟน

Sound Blaster AE-9 และ Sound Blaster AE-7 พร้อมวางจำหน่ายแล้ว (ในต่างประเทศ) ในราคา $349.99 และ $229.99 ตามลำดับ


ที่มา: Guru3D

กองบรรณาธิการ AV Tech Guide

สื่อออนไลน์ที่มีเนื้อหาครอบคลุมเกี่ยวกับเทคโนโลยีนวัตกรรมในกลุ่มสินค้าเครื่องเสียงไฮไฟ โฮมเธียเตอร์ ไอทีมัลติมีเดีย ตลอดจนสินค้านวัตกรรมอื่น ๆ ที่มีอิทธิพลต่อไลฟ์สไตล์ของผู้คนทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต ดำเนินงานโดยทีมงานมืออาชีพ