Bose เตรียมปิดร้านค้าปลีกทั้งหมดในอเมริกาเหนือ ยุโรป ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย
Bose เตรียมปิดร้านค้าปลีกทั้งหมดในอเมริกาเหนือ ยุโรป ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย ทางบริษัทได้แถลงถึงการตัดสินใจก่อนหน้านี้ และได้ชี้ให้เห็นถึงความเป็นจริงที่ว่าหูฟัง ลำโพงและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ Bose มีการ “ซื้อผ่านอีคอมเมิร์ซมากขึ้น” และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้พนักงานหลายร้อยคนจะถูกเลิกจ้าง
“แต่เดิมร้านค้าปลีกของเราเปิดโอกาสให้ผู้คนได้สัมผัส ทดสอบและพูดคุยกับเราเกี่ยวกับระบบความบันเทิงภายในบ้าน ด้วยสินค้าที่หลากหลาย รวมทั้งแผ่นซีดีและแผ่นดีวีดี” Colette Burke รองประธานฝ่ายขายทั่วโลกของ Bose Corporation ให้ความเห็น
“ในเวลานั้นมันเป็นความคิดแบบว่าจริงจังมาก เรามุ่งเน้นไปที่ความต้องการของลูกค้าต้องการและสิ่งที่พวกเขาต้องการ – และในเวลานี้เราก็กำลังทำสิ่งเดียวกัน”
ส่วนหนึ่งจากแถลงการณ์ของ Bose ระบุว่า เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการช็อปปิ้งออนไลน์ ทาง Bose วางแผนที่จะปิดร้านค้าปลีกที่เหลือ 119 แห่งในอเมริกาเหนือยุโรปญี่ปุ่นและออสเตรเลียในอีกหลายเดือนต่อจากนี้
สำหรับพื้นที่ในส่วนอื่น ๆ ของโลกร้านค้าปลีกของ Bose จะยังคงเปิดอยู่ รวมถึงร้านค้าอีกประมาณ 130 แห่งในประเทศจีนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมทั้งร้านค้าอื่น ๆ ที่เหลืออยู่ในประเทศอินเดีย ประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศเกาหลีใต้
ในปีค.ศ. 1993 Bose ได้เปิดร้านสาขาแรกในสหรัฐอเมริกาเพื่อสาธิตการใช้งานของชุดเครื่องเสียง Wave Music และ Lifestyle Home Theater เมื่อสมาร์ทโฟนได้เข้ามาเป็นจุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรม ทางบริษัทก็ได้หันไปให้ความสนใจกับสินค้าในกลุ่มเครื่องเสียงพกพา สินค้าที่มีการเชื่อมต่อ Bluetooth และ Wi-Fi มากขึ้น
ปัจจุบันนี้สินค้าของ Bose ประเภทหูฟังตัดเสียงรบกวน, หูฟังไร้สาย True Wireless, ลำโพงพกพา และลำโพงสมาร์ท ได้มีการสั่งซื้อผ่านอีคอมเมิร์ซมากขึ้น รวมถึงผ่านทางเว็บไซต์ Bose.com
ปัจจุบันทางบริษัทยังไม่เปิดเผยว่ามีพนักงานจำนวนเท่าใดที่จะได้รับผลกระทบจากการตัดสินใจปิดร้านค้าปลีกในครั้งนี้
ที่มา: The Verge
