Bluesound เปิดตัว Bluesound Node รุ่นใหม่ พร้อม Node Nano และ Node Icon
ท่ามกลางกระแสความร้อนแรงของเครื่องเสียงประเภทสตรีมเมอร์ที่มาพร้อมกับตัวเลือกมากมายในปัจจุบัน แบรนด์ดังอย่าง Bluesound เปิดตัวเครื่องเล่นเพลงใหม่สามรุ่น ได้แก่ Node รุ่นใหม่ (มาแทนที่ Node ปี 2021), Node Nano รุ่นเริ่มต้น และ Node Icon รุ่นเรือธง
เครื่องเล่นทั้งสามรุ่นใหม่นี้มีราคาที่แตกต่างกันในตลาด และทั้งหมดยังคงเป็นเครื่องเล่นเพลงระบบเน็ตเวิร์กที่รองรับการเล่นไฟล์เสียงรายละเอียดสูงตามแบบฉบับของ Bluesound
รุ่นเรือธงอย่าง Bluesound Node Icon นั้นมาพร้อมการออกแบบวงจรแปลงสัญญาณดิจิทัลเป็นอะนาล็อกแบบ Dual-Mono DAC โดยเลือกใช้ชิป DAC ESS ES9039Q2M SABRE จำนวน 2 ชุด สนับสนุนการทำงานด้วยภาคจ่ายไฟเลี้ยงสัญญาณรบกวนต่ำ พร้อมจอแสดงผลขนาด 5 นิ้ว ที่ด้านหน้าตัวเครื่อง
สำหรับ Bluesound Node รุ่นมาตรฐานนั้นเป็นการอัปเดตเครื่องเล่นรุ่นดังด้วยเปลี่ยนไปใช้งานชิป DAC ES9039Q2M SABRE ตัวเดียวในวงจรแปลงสัญญาณดิจิทัลเป็นอะนาล็อก ปรับปรุงวงจรภาคจ่ายไฟเลี้ยงสัญญาณรบกวนต่ำ รวมถึงส่วนประกอบอื่น ๆ ภายในวงจรที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อยกระดับประสิทธิภาพของรุ่นนี้ไปสู่อีกระดับ
สำหรับน้องใหม่อย่าง Bluesound Node Nano นั้นเป็นเครื่องเสียงสตรีมมิงระดับเริ่มต้นที่ให้ความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมายที่มีงบประมาณจำกัด ได้รับการออกแบบให้เป็นก้าวแรกสู่การสตรีมเพลงสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยใช้งานเครื่องเสียงสตรีมมิงมาก่อน
Node Nano จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการอัปเดตระบบเสียงไฮไฟแบบเดิม ๆ ด้วยพลังการสตรีมที่รองรับระบบเน็ตเวิร์กทั้งแบบต่อสายและแบบไร้สาย Wi-Fi ในส่วนของวงจรแปลงสัญญาณดิจิทัลเป็นอะนาล็อกนั้น เลือกใช้ชิป ESS ES9039Q2M SABRE DAC หนึ่งตัวเช่นเดียวกับรุ่น Bluesound Node รุ่นใหม่ พร้อมทั้งช่องทางการเชื่อมต่อที่จำเป็นสำหรับการใช้งานเบื้องต้น
อุปกรณ์สตรีมเพลงรุ่นใหม่ของ Bluesound ทุกรุ่นนั้นถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการฟังเพลงในยุคปัจจุบัน โดยแต่ละรุ่นรองรับการสตรีมเพลงจาก Amazon Music, TIDAL และ Spotify ควบคู่ไปกับการสตรีมด้วย Apple AirPlay 2 และ Roon Ready หรือการสตรีมไร้สายบลูทูธแบบสองทาง มาพร้อมมาตรฐาน Bluetooth 5.2 และ aptX Adaptive Audio Codec
สำหรับการสตรีมไฟล์เสียงรายละเอียดสูงนั้น ทั้งสามรุ่นรองรับไฟล์ความละเอียดสูงได้ถึง 24bit/192kHz PCM (Native Sampling Rates) รองรับการถอดรหัสเสียง MQA ในขณะที่รุ่น Node และ Node Icon นั้นยังรองรับไฟล์ DSD ได้ถึงระดับ DSD256 ได้ด้วย
ส่วนรุ่น Nano นั้น คุณสมบัติเบื้องต้นระบุว่าสามารถเล่นไฟล์เสียง DSD ได้ แต่ไม่ได้แจ้งว่าเล่นในรูปแบบใด นอกจากนั้นตามข้อมูลบนหน้าเว็บของ Bluesound ยังแจ้งไว้ด้วยว่าคุณสมบัติในส่วนของการเล่นไฟล์ DSD ในเครื่องรุ่นใหม่ทั้งสามรุ่นจะใช้งานได้หลังจากการอัปเดตเฟิร์มแวร์ในอนาคต
การเชื่อมต่อใน Bluesound ทั้ง 3 รุ่น
สำหรับขั้วต่อสัญญาณในรุ่นต่าง ๆ นั้น ในรุ่นเรือธงอย่าง Node Icon มีขั้วต่อสัญญาณเสียงอะนาล็อกเอาต์พุตมาให้เลือกใช้งานทั้งแบบอันบาลานซ์ RCA และบาลานซ์ XLR นอกจากนั้นยังมีขั้วต่อสัญญาณเอาต์พุตซับวูฟเฟอร์ RCA และช่องเสียบหูฟัง 6.35mm ให้มาอีกสองช่อง (THX AAA™)
ด้านขั้วต่อสัญญาณดิจิทัลเอาต์พุตมีให้เลือกใช้งานทั้งแบบ optical, coaxial และ USB-A (USB Audio 2.0)
สำหรับขั้วต่อรับสัญญาณขาเข้า Node Icon มีให้มาทั้งขั้วต่อสัญญาณเสียงอะนาล็อกสเตริโอ RCA ขั้วต่อสัญญาณเสียงดิจิทัลทั้ง HDMI eARC, optical และ USB-A (สำหรับเล่นเพลงจากอุปกรณ์เก็บข้อมูลภายนอก) นอกจากนั้นที่ด้านหลัง Node Icon ยังมีขั้วต่อ USB-C สำหรับรับสัญญาณเสียงจากคอมพิวเตอร์ให้มาด้วย คุณสมบัตินี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องใหม่สำหรับเครื่องเสียงสตรีมมิงของ Bluesound
สำหรับ Bluesound Node รุ่นใหม่นั้น ด้านหลังเครื่องให้ขั้วต่อสัญญาณเสียงอะนาล็อกเอาต์พุตแบบอันบาลานซ์ RCA ขั้วต่อสัญญาณเอาต์พุตซับวูฟเฟอร์ RCA ขั้วต่อสัญญาณดิจิทัลเอาต์พุตทั้งแบบ optical และ coaxial ด้านหน้าเครื่องให้ช่องเสียบหูฟัง 6.35mm มาด้วย (THX AAA™)
ด้านขั้วต่อสัญญาณขาเข้า Bluesound Node รุ่นใหม่ มีขั้วต่อ 3.5mm สำหรับรับสัญญาณเสียงอะนาล็อก และ optical 3.5mm นอกจากนั้นยังมีขั้วต่ออินพุต HDMI eARC และ USB-A (สำหรับเล่นเพลงจากอุปกรณ์เก็บข้อมูลภายนอก)
รุ่นน้องเล็กอย่าง Node Nano มาพร้อมกับช่องสัญญาณอะนาล็อกเอาต์พุตสเตริโอ RCA ขั้วต่อสัญญาณดิจิทัลเอาต์พุต optical และ coaxial มีพอร์ต USB-A สำหรับเล่นไฟล์เพลงจากอุปกรณ์เก็บข้อมูลภายนอก
ในด้านการเชื่อมต่อระบบ network นั้น ทั้งสามรุ่นสามารถเลือกใช้งานได้ทั้งขั้วต่อ Gigabit LAN และระบบไร้สาย Wi-Fi 5
BluOS และ Dirac Live Room Correction
เครื่องเสียงรุ่นใหม่ของ Bluesound ทั้งสามรุ่นรองรับการใช้งานร่วมกับแอปฯ สตรีมมิง BluOS ในขณะที่รุ่น Node Icon และ Node รุ่นมาตรฐานนั้นสามารถอัปเกรดเพิ่มเทคโนโลยี Dirac Live Room Correction เสริมเข้าไปได้ด้วย
ราคาและช่วงเวลาในการวางจำหน่าย
Bluesound Node Nano พร้อมวางตลาดแล้ว ในราคา $299 หรือประมาณ 11,000 บาท
ขณะที่ Bluesound Node รุ่นใหม่ซึ่งมีตัวเครื่องให้เลือกทั้งสีขาวและสีดำพร้อมเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้วในราคา $549 หรือประมาณ 19,000 บาท และพร้อมวางตลาดในวันที่ 24 กันยายน นี้เป็นต้นไป
สำหรับ Bluesound Node Icon พร้อมเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ในราคา $999 หรือประมาณ 35,000 บาท และพร้อมจัดสั่งในวันที่ 15 พฤศจิกายน นี้ เป็นต้นไป
(หมายเหตุ ราคาในที่นี้อ้างอิงจากราคาดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถ้าหากอ้างอิงจากราคาที่เป็นหน่วยยูโรหรือปอนด์สเตอลิงอาจมีราคาแตกต่างไปจากนี้)