Blockbuster สูงสุดคืนสู่สามัญ จากเก้าพันสาขาเหลือแค่หนึ่งเดียว
Blockbuster ร้านให้เช่าซอฟต์แวร์ภาพยนตร์ชื่อดังที่เปิดกิจการมาตั้งแต่ยุคให้เช่าม้วนเทปวิดีโอ VHS เรื่อยมาจนถึงยุคของแผ่น DVD และ Blu-ray ก็ยังมิอาจต้านทานกระแสของสื่อสตรีมมิงยุคใหม่ได้
หลังจากที่สาขาสุดท้ายในสหราชอาณาจักรปิดตัวไปตั้งแต่เมื่อปี 2013 ในประเทศสหรัฐอเมริกาเองก็ได้ทยอยปิดตัวลงไปเรื่อย ๆ จนเหลืออยู่เพียงแค่แห่งเดียวในช่วงกลางปีที่แล้ว
ล่าสุดสาขาสุดท้ายในเมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลียก็ได้ประกาศเตรียมปิดกิจการอย่างถาวรในสิ้นเดือนนี้
ส่งผลให้ Blockbuster ซึ่งครั้งหนึ่งในยุครุ่งเรืองสุดขีดเคยมีสาขาทั่วโลกมากกว่า 9,000 แห่ง และมีอิทธิผลอย่างมากต่อวงการภาพยนตร์ในระดับโลก จะเหลืออยู่เพียงแห่งเดียวทั่วโลกเท่านั้นคือ ที่รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา
ที่ผ่านมากิจการของ Blockbuster เริ่มสั่นคลอนตั้งแต่เริ่มศตวรรษที่ 21 เป็นต้นมา หลังจากการรุกคืบของธุรกิจวิดีโอสตรีมมิงและอุปกรณ์เคลื่อนที่ซึ่งเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่มากกว่า
การพยายามปรับตัวของ Blockbuster ไม่ว่าจะเป็นการเปิดรับออเดอร์ทางไปรษณีย์ ขายของชำร่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือแม้แต่การเริ่มให้บริการวิดีโอสตรีมมิงบ้าง ก็ยังไม่เป็นที่ประสบความสำเร็จเพียงพอที่จะต่อกรกับผู้ให้บริการสตรีมมิงชื่อดังทั้งหลายได้
Blockbuster สาขาสุดท้ายในออสเตรเลียเปิดให้บริการมานานกว่า 30 ปี นาง Lyn Borszeky ผู้เป็นเจ้าของกิจการซึ่งมีสาขาในออสเตรเลียอยู่หลายแห่งได้เปิดเผยกับทาง CNN ว่า
“เราพยายามอย่างมากที่จะเป็นทางเลือกสุดท้ายในออสเตรเลีย เรารู้ว่าสักวันคงต้องเกิดความเปลี่ยนแปลง และตอนนี้มันก็ถึงเวลาแล้ว”
Lyn Borszeky ยังเผยอีกว่าเธอมีลูกค้าเจ้าประจำอยู่เยอะพอสมควร ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่ไม่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตที่มีคุณภาพดี หรือไม่ก็เป็นลูกค้ารุ่นใหญ่ที่พบว่าเทคโนโลยีดิจิทัลสมัยใหม่เป็นเรื่องซับซ้อนเกินไปสำหรับพวกเขา พวกเขามักจะมาที่ร้านแล้วคุยกันทุกเรื่องที่เกี่ยวกับภาพยนตร์
สำหรับ Blockbuster สาขาสุดท้ายในรัฐโอเรกอน ได้เปิดกิจการมานานกว่า 20 ปี Sandi Harding ผู้จัดการทั่วไปของทางร้านเผยว่า ปัจจุบันทางร้านยังให้บริการเช่าภาพยนตร์เรื่องใหม่ ๆ อยู่ ขณะเดียวกันหนังคลาสสิคอย่าง “bread and butter” ก็ยังมีให้บริการอยู่
นอกจากนั้นเธอยังคุยว่า “เด็กสมัยใหม่อาจหาดูหนังใหม่ ๆ ได้จาก Netflix หรือ Amazon แต่ถ้าพูดถึงหนังเก่าด้วยผู้ให้บริการเหล่านั้นมีไม่ครบเท่า Blockbuster อย่างแน่นอน”