AV Tech Guide สื่อ Online รีวิว ข่าว ความรู้ ด้านเครื่องเสียง ไฮไฟ โฮมเธียเตอร์ ทีวี สมาร์ทโฟน ไอที มัลติมีเดียและสินค้านวัตกรรม

AV Tech Guide สื่อ Online รีวิว ข่าว ความรู้ ด้านเครื่องเสียง ไฮไฟ โฮมเธียเตอร์ ทีวี สมาร์ทโฟน ไอที มัลติมีเดียและสินค้านวัตกรรม

Audiolab แนะนำ M-DAC Nano “Bluetooth DAC” ขนาดกล่องไม้ขีด

Audiolab แนะนำ M-DAC Nano “Bluetooth DAC” ขนาดกล่องไม้ขีด เปิดตัวในราคา 150 ปอนด์ (ประมาณ 6,xxx บาท) เป็น DAC ขนาดเล็กที่สุดซึ่งอยู่ในตระกูล M-DAC ตัว Nano เล็กกว่าฝ่ามือพกพาง่ายและราคาย่อมเยา เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับ DAC แบบพกพา

M-DAC Nano ทำงานแบบไร้สาย เชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟนผ่าน aptX Bluetooth โดยไม่จำเป็นต้องใช้สายเคเบิลต่อระหว่างอุปกรณ์ต้นทางกับหูฟัง แต่จะเชื่อมต่อหูฟังเข้ากับ Nano ผ่านช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรแทน

ภาค DAC ของ Nano รองรับรายละเอียดที่ 32บิต/384kHz (สามารถเพิ่มรายละเอียดข้อมูลที่รับจาก Bluetooth ได้) นำมาขยายสัญญาณเสียงในแบบอะนาล็อกด้วยภาคขยาย Class H โดยสามารถรับฟังเสียงได้ 2 โหมดให้เลือก ทั้ง ‘standard’ และ ‘enhanced’

สัดส่วนตัวเครื่อง

การทำงานได้ถูกออกแบบมาให้เพิ่มคุณภาพเสียงได้โดยใช้เทคนิคการกรองสัญญาณแบบดิจิทัลและการยกระดับรายละเอียดเสียง ซึ่งทำให้ตัวเครื่องทำงานได้ประมาณ 6 ชั่วโมง แต่ถ้าหากทำงานในโหมดปกติจะยืดอายุการใช้งานได้ถึง 8 ชั่วโมง

แบตเตอรี่ในตัวรองรับการชาร์จแบบไร้สายผ่าน Qi และยังมีอีกหนึ่งคุณลักษณะที่ดีสำหรับ DAC ขนาดกะทัดรัดเพียงกล่องไม้ขีดที่หนักเพียง 28 กรัม ด้วยฟังก์ชันการประหยัดแบตเตอรี่ที่จะปิดเครื่องเองหลังจากไม่มีการใช้งานเป็นเวลา 10 นาที

การปรับระดับเสียง ทำได้จากปุ่มหมุนด้านข้าง ที่สามารถหมุนควบคุมเสียงได้ถึง 64 ระดับ อีกทั้งยังสามารถควบคุมฟังก์ชั่นการใช้งานอื่นๆ ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเล่น หยุด หยุดชั่วคราว หรือข้ามเพลง

M-DAC Nano มาพร้อมกับกระเป๋าและจะเริ่มวางจำหน่ายกันปลายเดือนนี้

ธวัชชัย อุไรรัตน์

ชื่นชอบดนตรีและเครื่องเสียงตั้งแต่ ปวช. ประกอบเครื่องเสียงใช้เองตั้งแต่เริ่มแรก ผ่านประสบการณ์ทางด้านเสียง/โฮมเธียเตอร์มาแล้วหลายรูปแบบ ทั้งนักวิจารณ์เครื่องเสียง/โฮมเธียเตอร์ เป็นทีมงานเครื่องเสียงให้เช่า (ติดตั้งโครงสร้าง วางลำโพง เซ็ตระบบเสียงทั้ง PA และ Monitor มิกซ์เสียง) ผ่านงานติดตั้งระบบมินิเธียเตอร์ ทั้งระบบภาพ 3D แบบ Passive (2 Projector Stack) และระบบเสียง 7.1 แชนเนล ผ่านการอบรม The Sound Master มีผลงานเขียนตีพิมพ์อย่างต่อเนื่อง ติดตามเทคโนโลยีอยู่เสมอ