Apple คุย Touch ID ที่ปุ่มเพาเวอร์ใน iPad Air 4 คือ วิศวกรรมที่น่าทึ่ง
หลังจากที่ได้เปิดตัว iPad Air รุ่นใหม่ล่าสุด (iPad Air 4) ซึ่งมาพร้อมกับการออกแบบที่มีความเปลี่ยนแปลงไปจาก iPad Air รุ่นอื่น ๆ ที่ผ่านมาอย่างชัดเจน รวมทั้งการนำเสนอระบบสแกนลายนิ้วมือหรือ Touch ID แบบใหม่ (สำหรับ Apple) ที่ไปรวมอยู่ในปุ่มเพาเวอร์
ล่าสุดนาย Bob Borchers รองประธานฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ของ Apple และนาย John Ternus รองประธานฝ่ายวิศวกรรมผลิตภัณฑ์ของ Apple ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านพอดแคสต์ของสื่อออนไลน์ที่ชื่อ Same Brain ดำเนินรายการโดยยูทูบเบอร์ชื่อดัง iJustine และ Jenna Ezarik
โดยในช่วงที่พูดคุยเกี่ยวกับ iPad Air รุ่นใหม่ นาย Borchers เผยว่า การนำเซ็นเซอร์ Touch ID ไปรวมเอาไว้ในปุ่มเพาเวอร์ซึ่งมีพื้นที่น้อยกว่าปุ่มโฮมมาก ๆ นั้นคือ ‘วิศวกรรมที่น่าทึ่ง’
ขณะที่นาย Ternus เสริมว่า พื้นที่สำหรับเซ็นเซอร์ที่แคบมาก ๆ เป็นอะไรที่ท้าทายการออกแบบอย่างมากตัวเซ็นเซอร์จำเป็นต้องออกแบบให้มีความไวอย่างเหลือเชื่อ (incredibly sensitive) และจะต้องจับภาพลายนิ้วมือในมุมมองที่กว้างขึ้น ตั้งแต่ในขั้นตอนการลงทะเบียนครั้งแรกและตลอดการใช้งานหลังจากนั้น
นาย Ternus ยังให้ข้อสังเกตว่าสำหรับ iPad Air ใหม่รุ่น cellular นั้น ส่วนบนของตัวเครื่องนั้นเป็นตำแหน่งของเสาอากาศ การออกแบบยิ่งต้องเอาใจใส่มากเป็นพิเศษ เพื่อให้แน่ใจว่าตัวเซ็นเซอร์ Touch ID กับเสาอากาศ จะไม่รบกวนซึ่งกันและกัน เพราะทั้งคู่เป็นอุปกรณ์ที่มีความไวสูงมาก
จากข้อมูลข้างต้น ทางเราได้ลองไปดูที่ปุ่มเพาเวอร์ของ iPad Pro รุ่นปัจจุบัน พบว่าหากใน iPad Air ใหม่ยังคงใช้ปุ่มเพาเวอร์ที่มีขนาดเท่ากัน พื้นที่สำหรับ Touch ID ใหม่นี้มีพื้นที่แคบจริง ๆ ครับ เพราะว่าตัวปุ่มเพาเวอร์ใน iPad Pro นั้นมีความกว้างเพียงแค่ประมาณ 2-2.5mm เท่านั้นเอง ขณะที่สมาร์ทโฟนบางรุ่นที่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบริเวณปุ่มเพาเวอร์ที่ด้านข้างตัวเครื่อง พบว่ามีพื้นที่ความกว้างราว ๆ 4-5mm หรือมากกว่านั้น จึงทำให้ออกแบบได้ง่ายกว่า
นอกจากนั้นแล้วในส่วนของวิศวกรรมการประมวลผลยังต้องได้รับการออกแบบอย่างเข้มงวดเพื่อให้มั่นใจได้ว่า Touch ID แบบใหม่นี้จะทำงานได้ดีจะทำงานได้ดีและมีความปลอดภัยไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าแบบเดิม ๆ ที่เคยทำออกมา โดยระบบ Neural Engine ที่ถูกนำเสนอเพิ่มเข้ามาใน iPad Air ใหม่ มีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลเป็นอย่างมาก
ในส่วนของชิปประมวลผล ใน iPad Pro รุ่นปัจจุบัน (2020) Apple เลือกใช้ชิป A12Z Bionic ขณะที่ iPad Air ใหม่นั้นเป็นอุปกรณ์รุ่นแรกที่เลือกใช้ชิปตัวใหม่ล่าสุดอย่าง A14 Bionic ซึ่งความแตกต่างดังกล่าวนาย Borchers ให้ข้อมูลว่า
ชิป A12Z นั้นถูกปรับแต่งมาให้เหมาะกับขั้นตอนการทำงานและประสบการณ์ระดับมืออาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่มีการทำงานกับกราฟิกมากเป็นพิเศษ ดังนั้นเมื่อเทียบกับชิป A14 แล้ว ชิป A12Z นั้นมีพลังการประมวลผลที่เหนือกว่าเมื่อทำงานที่เกี่ยวข้องกับกราฟิก ขณะที่ชิป A14 นั้นมาพร้อมกับความสามารถรอบด้านอันน่าทึ่ง
ที่มา: macrumors.com