Apple เปิดตัวลำโพง HomePod รุ่นใหม่ ชูจุดเด่นด้านคุณภาพเสียงและความชาญฉลาดระดับสะเทือนวงการ
Apple เปิดตัวลำโพง HomePod ใหม่ (รุ่นที่ 2) ซึ่งเป็นลำโพงอัจฉริยะที่อัดแน่นไปด้วยหลากหลายนวัตกรรมจาก Apple ชูจุดเด่นระบบเสียงขั้นสูงที่ประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อสร้างประสบการณ์การฟังระดับสะเทือนวงการ พร้อมรองรับแทร็คเพลงที่ใช้ระบบเสียงตามตำแหน่งเพื่อความเต็มอิ่มสมจริง (Spatial Audio)
นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับวิธีการใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามาเพื่อให้จัดการงานประจำวันและควบคุมบ้านอัจฉริยะได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้ผู้ใช้งานสร้างการทำงานอัตโนมัติของบ้านอัจฉริยะได้ผ่าน Siri รับการแจ้งเตือนเมื่อเซ็นเซอร์ส่งเสียงว่าตรวจพบควันไฟหรือก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในบ้าน รวมทั้งตรวจดูอุณหภูมิและะความชื้นของห้องได้แบบไม่ต้องสัมผัสหรือกดปุ่มใด ๆ เลย
ขุมพลังแห่งเสียงเพลง
ลำโพง HomePod มอบคุณภาพเสียงเหนือระดับ จากวูฟเฟอร์แบบช่วงชักยาวที่ผ่านการปรับแต่งด้านวิศวกรรมมาเป็นพิเศษ ระบบมอเตอร์ทรงพลังที่สามารถผลักดันไดอะแฟรมได้ในช่วงชักถึง 20 มม. ด้านระบบชดเชยเสียงทุ้มทำงานร่วมกับระบบไมโครโฟนในตัว สำหรับชุดทวีตเตอร์จำนวน 5 ตัว วางตำแหน่งจัดเรียงแบบบีมฟอร์มมิ่งอยู่รอบฐานร่วมถ่ายทอดรายละเอียดให้ครบถ้วนสมจริงมากยิ่งขึ้น
ชิปประมวลผล S7 ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีระบบตรวจจับต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นระบบเสียงขั้นสูงกว่าเดิมที่ประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ สามารถถ่ายทอดพลังได้ถึงขีดสุด ส่งมอบประสบการณ์การรับฟังเสียงเพลงในระดับสะเทือนวงการ
เทคโนโลยีตรวจจับสภาพห้องช่วยให้ HomePod สามารถนำข้อมูลเสียงสะท้อนจากพื้นผิวใกล้เคียงมาประมวลผลว่าตอนนี้ตัวเครื่องวางอยู่ชิดผนังห้องหรือตั้งอยู่กลางห้อง แล้วนำไปปรับเปลี่ยนลักษณะการชดเชยเสียงได้แบบเรียลไทม์ การควบคุมแบบสองทิศทางอันแม่นยำของชุดทวีตเตอร์ 5 ตัวที่เรียงแบบบีมฟอร์มมิ่งสามารถแยกและยิงแนวเสียงทั้งแบบตรงและแบบแวดล้อม เพื่อให้ผู้ฟังได้ดื่มด่ำสัมผัสเสียงร้องที่ชัดใสและเสียงเครื่องดนตรีแบบเต็มอิ่ม
ผู้ใช้งานเลือกรับฟังเพลงได้จาก Apple Music ซึ่งบรรจุเพลงต่าง ๆ ไว้มากกว่า 100 ล้านเพลง เพลิดเพลินไปกับระบบเสียงตามตำแหน่งใน HomePod เครื่องเดียวหรือใช้สองเครื่องแบบคู่เสียงสเตอริโอ หรือสร้างประสบการณ์โฮมเธียร์เตอร์แบบสมจริงด้วย Apple TV 4K นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถใช้ Siri เพื่อเข้าถึงความรู้ด้านดนตรี หรือจะค้นหาเพลงตามศิลปิน ชื่อเพลง เนื้อร้อง ปีทศวรรษ แนวเพลง อารมณ์ หรือกิจกรรมก็ทำได้
ยกระดับให้ประสบการณ์ด้านเสียงด้วยการใช้ลำโพง HomePod หลายเครื่อง
การใช้ HomePod หรือ HomePod mini ร่วมกันหลายเครื่องจะช่วยปลดล็อคให้คุณได้ใช้หลากหลายคุณสมบัติอันเยี่ยมยอด เมื่อใช้ระบบเสียงที่เล่นพร้อมกันในหลายห้องด้วย AirPlay ผู้ใช้งานสามารถพูดว่า “หวัดดี Siri” หรือแตะค้างไว้ที่ด้านบนของ HomePod เพื่อสั่งให้เล่นเพลงเดียวกันผ่านลำโพง HomePod หลายตัว เล่นเพลงแตกต่างกันในลำโพง HomePod แต่ละตัว หรือแม้แต่ใช้ลำโพงเป็นอินเตอร์คอมเพื่อประกาศข้อความไปยังห้องอื่น ๆ
ผู้ใช้งานยังสามารถสร้างคู่เสียงสเตอริโอโดยใช้ลำโพง HomePod สองเครื่องซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกันได้อีกด้วย ซึ่งนอกจากจะเล่นเพลงในช่องเสียงซ้ายและขวาแยกกันแล้ว คู่เสียงสเตอริโอนี้ยังจะเล่นเพลงในแต่ละช่องเสียงให้สอดคล้องลงตัวกัน เพื่อสร้างมิติเสียงที่กว้างขึ้นและสมจริงมากกว่าคู่ลำโพงสเตอริโอทั่วไป ผู้ใช้งานจึงได้รับประสบการณ์ด้านเสียงที่โดดเด่นเหนือใคร
การนำเทคโนโลยีอัลตร้าไวด์แบนด์มาใช้เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถย้ายสิ่งที่กำลังเล่นอยู่บน iPhone เช่น เพลงโปรด พ็อดคาสต์ หรือแม้แต่สายที่โทรค้างอยู่ มาเปิดเล่นเสียงต่อที่ HomePod ได้โดยตรง ทุกคนในบ้านสามารถควบคุมสิ่งที่กำลังเล่นอยู่หรือรับเพลงที่ปรับแต่งตามผู้ใช้งานและการแนะนำพ็อดคาสต์ได้ง่าย ๆ เพียงนำ iPhone มาอยู่ใกล้กับ HomePod แล้วคำแนะนำจะปรากฏขึ้นโดยอัตโนมัติ
นอกจากนั้น HomePod ยังจดจำเสียงได้มากถึง 6 เสียง สมาชิกแต่ละคนในบ้านจึงรับฟังเพลงในเพลย์ลิสต์ของตัวเอง ถามข้อมูลเรื่องการเตือนความจำ และเพิ่มกิจกรรมลงในปฏิทินได้
HomePod สามารถจับคู่กับ Apple TV 4K ได้อย่างง่ายดายเพื่อสร้างประสบการณ์โฮมเธียร์เตอร์อันทรงพลัง และการรองรับ eARC (Enhanced Audio Return Channel) บน Apple TV 4K ก็ช่วยให้ลูกค้าสามารถนำ HomePod ไปใช้เป็นระบบเสียงสำหรับอุปกรณ์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่ออยู่กับทีวี และด้วย Siri บน HomePod ผู้ใช้งานจึงสามารถควบคุมสิ่งที่กำลังเล่นอยู่บน Apple TV ได้แบบไม่ต้องสัมผัสหรือกดปุ่มใด ๆ เลย
การใช้แอปฯ “ค้นหาของฉัน” กับ HomePod ทำให้ผู้ใช้งานทราบตำแหน่งของอุปกรณ์ Apple เครื่องต่าง ๆ เช่น iPhone ได้ด้วยการเปิดให้อุปกรณ์ที่หาไม่เจอนั้นส่งเสียงออกมา นอกจากนั้น ผู้ใช้งานยังสามารถใช้ Siri เพื่อขอทราบตำแหน่งที่ตั้งของเพื่อน ๆ หรือบุคคลที่รักซึ่งได้เแชร์ตำแหน่งที่ตั้งผ่านแอปนี้ได้อีกด้วย
สิ่งจำเป็นสำหรับบ้านอัจฉริยะ
คุณสมบัติการจำเสียง ทำให้ HomePod จะคอยฟังเสียงของเซ็นเซอร์ตรวจจับควันไฟหรือก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ แล้วส่งการแจ้งเตือนไปที่ iPhone ของผู้ใช้งานโดยตรงเมื่อเซ็นเซอร์ส่งเสียงเตือน เซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิและความชื้นที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในตัวนี้ตรวจวัดข้อมูลภายในบ้านได้ ผู้ใช้งานจึงสามารถสร้างการทำงานอัตโนมัติให้ปิดม่านหรือพัดลมโดยอัตโนมัติเมื่ออุณหภูมิในห้องอยู่ถึงจุดที่กำหนดไว้
เมื่อใช้งาน Siri ลูกค้าจะสามารถควบคุมอุปกรณ์หนึ่งชิ้นหรือสร้างบรรยากาศอย่าง “อรุณสวัสดิ์” ที่จะสั่งให้อุปกรณ์เสริมด้านบ้านอัจฉริยะหลายเครื่องทำงานพร้อมกัน หรือสร้างการทำงานอัตโนมัติที่เกิดซ้ำได้โดยไม่ต้องสัมผัสหรือกดปุ่มใด ๆ เลย เพียงสั่งว่า “หวัดดี Siri เปิดม่านทุกวันตอนพระอาทิตย์ขึ้น”
เสียงยืนยันเสียงใหม่จะช่วยให้คุณทราบว่า Siri ทำตามคำขอให้ควบคุมอุปกรณ์เสริมสำเร็จแล้ว ซึ่งมีประโยชน์กับอุปกรณ์บางอย่างที่ไม่เห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงชัดเจน เช่น เครื่องทำความร้อน หรืออุปกรณ์เสริมที่อยู่ห้องอื่น เสียงแอมเบียนซ์ เช่น เสียงทะเล เสียงป่า และเสียงฝนตก ก็ได้รับการรีมาสเตอร์และผสานให้เข้ากับประสบการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างลงตัวมากขึ้น ผู้ใช้งานจึงสามารถเพิ่มเสียงใหม่ ๆ นี้ลงไปในบรรยากาศ การทำงานอัตโนมัติ และใช้เป็นเสียงแจ้งเตือนได้
ผู้ใช้งานยังสามารถเลื่อนหา ดู และจัดเรียงอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายด้วยแอปบ้านที่มาในดีไซน์ใหม่ มีหมวดหมู่ต่าง ๆ เพิ่มเข้ามาสำหรับอุปกรณ์ด้านสภาพอากาศ แสงไฟ และความปลอดภัย ช่วยให้ตั้งค่าและควบคุมบ้านอัจฉริยะได้อย่างง่ายดาย นอกจากนั้น แอปนี้ยังมีมุมมองใหม่อย่างมุมมองกล้องหลายตัวอีกด้วย
การรองรับ Matter
Matter ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้วจะเข้ามาช่วยให้ผลิตภัณฑ์ด้านบ้านอัจฉริยะสามารถทำงานข้ามระบบนิเวศ ในขณะที่ยังคงรักษาความปลอดภัยระดับสูงสุดไว้ได้ Apple เป็นหนึ่งในสมาชิกของ Connectivity Standards Alliance ร่วมกับบริษัทชั้นนำอื่น ๆ ของวงการที่นำเสนอมาตรฐาน Matter HomePod สามารถเชื่อมต่อและควบคุมอุปกรณ์เสริมที่ใช้งานตามมาตรฐาน Matter รวมถึงทำหน้าที่เป็นฮับที่จำเป็นต้องมีไว้ภายในบ้าน เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าถึงสิ่งต่าง ๆ ในบ้านได้จากนอกบ้าน
ราคาและความพร้อมในการวางจำหน่าย
• HomePod (รุ่นที่ 2) จะวางจำหน่ายในออสเตรเลีย, แคนาดา, จีน, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, ญี่ปุ่น, สเปน, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา และอีกกว่า 11 ประเทศและภูมิภาค
• HomePod (รุ่นที่ 2) ใช้งานได้กับ iPhone SE (รุ่นที่ 2) และใหม่กว่า หรือ iPhone 8 และใหม่กว่าที่ใช้ iOS 16.3 หรือใหม่กว่า หรือ iPad Pro, iPad (รุ่นที่ 5) และใหม่กว่า, iPad Air (รุ่นที่ 3) และใหม่กว่า หรือ iPad mini (รุ่นที่ 5) และใหม่กว่าที่ใช้ iPadOS 16.3