Apple Watch Series 4 ออกแบบใหม่หมดพร้อมเพิ่มคุณสมบัติสุดล้ำด้านการสื่อสาร ฟิตเนส และสุขภาพ
คูเปอร์ติโน แคลิฟอร์เนีย — 12 กันยายน 2018, Apple® ประกาศเปิดตัว Apple Watch® Series 4 ซึ่งออกแบบใหม่หมดทั้งในด้านดีไซน์และวิศวกรรมเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ต่อติดทุกเรื่อง แอ็คทีฟมากขึ้น และจัดการสุขภาพด้วยวิธีการใหม่ ๆ ที่ทรงพลัง แม้จะยังคงดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เอาไว้ แต่ Apple Watch รุ่นที่ 4 นี้ได้รับการปรับแต่งมาอย่างพิถีพิถัน
โดยมีการผสมผสานฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมลงในตัวเรือนที่เป็นหนึ่งเดียวอย่างแท้จริง จอแสดงผลอันน่าทึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเดิม 30 เปอร์เซ็นต์และผสานเข้ากับตัวเรือนที่มีขนาดเล็กและบางลงอย่างไร้ที่ติ อีกทั้งยังมีอินเทอร์เฟซใหม่ที่แสดงข้อมูลได้มากขึ้นพร้อมรายละเอียดที่มากกว่าเดิม
Apple Watch Series 4 และ watchOS 5 มาพร้อมฟีเจอร์กิจกรรมและการสื่อสารขั้นสูง พร้อมด้วยความสามารถด้านสุขภาพล้ำสมัยมากมาย รวมถึงอุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและไจโรสโคปแบบใหม่ซึ่งสามารถตรวจจับการล้มอย่างรุนแรง และเซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบไฟฟ้าที่สามารถวัดคลื่นหัวใจ (ECG)ได้ ด้วยแอปฯ ECG ใหม่ ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐาน De Novo จาก FDA เรียบร้อยแล้ว
“เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ Apple Watch กลายมาเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของผู้คน” Jeff Williams ประธานฝ่ายปฏิบัติการของ Apple กล่าว
“Apple Watch Series 4 ที่ออกแบบใหม่หมดจะยังคงเป็นคู่หูด้านการสื่อสารและการออกกำลังกายที่ขาดไม่ได้เช่นเดิม แถมครั้งนี้ยังเสริมด้วยคุณสมบัติที่ปฏิวัติวงการอย่างการตรวจจับการล้มและแอปฯ ECG ให้ผู้ใช้นาฬิกาได้ใช้งานกันเป็นครั้งแรก Apple Watch Series 4 จึงควบตำแหน่งผู้ดูแลสุขภาพอันชาญฉลาดของคุณอีกด้วย”
ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 14 กันยายนเป็นต้นไป Apple Watch Series 4 (รุ่น GPS) จะเปิดให้สั่งซื้อใน 26 ประเทศและเขตการปกครอง และ Apple Watch Series 4 (รุ่น GPS+ Cellular) จะเปิดให้สั่งซื้อใน 16 ประเทศและเขตการปกครอง ทั้งสองรุ่นจะวางจำหน่ายในร้านตั้งแต่วันศุกร์ที่ 21 กันยายน เป็นต้นไป
Apple Watch Series 4 เป็นมากกว่าการปฏิวัติวงการนาฬิกา เพราะเป็นการออกแบบทางรากฐานใหม่หมดทั้งในด้านดีไซน์และวิศวกรรม Apple Watch มีตัวเรือนให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ 40 มม. และ 44 มม. ลำโพงดังขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ ปรับแต่งมาเพื่อการโทร การใช้ Siri และวอล์คกี้ทอล์คกี้
รวมถึงย้ายตำแหน่งไมโครโฟนเพื่อลดเสียงสะท้อนและมอบคุณภาพเสียงที่ดียิ่งขึ้น Apple Watch Series 4 มาพร้อมชิพ S4 เจเนอเรชั่นถัดไปที่มีโปรเซสเซอร์ 64 บิตแบบ Dual-core ที่ปรับแต่งมาเฉพาะ จึงประมวลผลได้เร็วกว่าเดิม 2 เท่าแต่ยังคงมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน
ด้านหลังของ Apple Watch Series 4 ทำมาจากเซรามิกสีดำสุดหรูและผลึกแซฟไฟร์ ที่ช่วยให้การส่งผ่านคลื่นวิทยุระหว่างด้านหน้าและหลังดีขึ้นกว่าเดิม จึงส่งผลให้การใช้งานระบบเซลลูลาร์ลื่นไหลมากขึ้น ปุ่ม Digital Crown® ตอบสนองแบบสั่นได้แล้ว จึงให้ความรู้สึกที่มีความเป็นกลไกมากขึ้นและรวดเร็วฉับไวยิ่งขึ้นโดยการทำให้คุณรู้สึกถึงการหมุนทุกครั้งที่เลื่อน
อินเทอร์เฟซปรับมาให้เหมาะกับจอแสดงผลที่ใหญ่ขึ้น จึงสามารถแสดงไอคอน แอปฯ และฟอนต์ที่ใหญ่และอ่านง่ายขึ้นได้ ในขณะเดียวกันกลไกของหน้าปัดก็ปรับแต่งมาอย่างสวยงามเพื่อการแสดงผลอย่างแม่นยำ และให้รายละเอียดมากกว่าเดิม
หน้าปัดนาฬิกาใหม่ใช้ประโยชน์จากจอแสดงผลของ Series 4 อย่างเต็มที่ด้วยการเพิ่มหน้าปัดแบบอินโฟกราฟที่ปรับแต่งได้ไม่จำกัด รวมไปถึงหน้าปัดนาฬิกาการหายใจที่เคลื่อนไหวได้ตามจังหวะการหายใจลึก
นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มชุดหน้าปัดนาฬิกาแบบเคลื่อนไหวได้ ซึ่งประกอบด้วยไอระเหย โลหะเหลว ไฟ และน้ำ ที่ตอบสนองอย่างมีเอกลักษณ์ตามความโค้งมนของตัวเรือน
Apple Watch Series 4 ช่วยให้ผู้ใช้อ่านค่าคลื่นไฟฟ้าหัวใจได้จากบนข้อมือโดยตรงด้วยแอปฯ ECG ใหม่ที่อาศัยประโยชน์จากการเพิ่มขั้วไฟฟ้าลงในปุ่ม Digital Crown และเซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบไฟฟ้าตัวใหม่ที่ใส่ไว้ในฝาครอบแซฟไฟร์ด้านหลัง
เพียงสัมผัสปุ่ม Digital Crown แค่ 30 วินาที แอปฯก็จะแสดงผลวิเคราะห์การเต้นของหัวใจได้ แอปฯสามารถวิเคราะห์ได้ว่าการเต้นของหัวใจของผู้ใช้อยู่ในภาวะปกติ หรือมีสัญญาณผิดปกติเกี่ยวกับภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (AFib) ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพที่ซับซ้อนได้ การตรวจบันทึก การวินิจฉัย และข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับอาการจะถูกเก็บรวบรวมไว้ในแอปฯ สุขภาพในรูปแบบ PDF ซึ่งสามารถแชร์กับแพทย์ได้
watchOS 5 ทำให้ Apple Watch วิเคราะห์จังหวะการเต้นของหัวใจได้เป็นช่วง ๆ อยู่เบื้องหลังและจะส่งการแจ้งเตือนหากจังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติซึ่งอาจเป็นผลมาจาก AFib นอกจากนี้ Apple Watch จะแจ้งเตือนหากอัตราการเต้นของหัวใจช้าหรือเร็วกว่าเกณฑ์ที่ระบุไว้
การตรวจจับการล้มใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและไจโรสโคปเจเนอเรชั่นใหม่ ซึ่งสามารถวัดการล้มได้สูงสุด 32 แรงจี พร้อมกับระบุการล้มที่มีความรุนแรงด้วยอัลกอริธึ่มแบบปรับแต่งได้
Apple Watch สามารถวิเคราะห์วิถีการเคลื่อนที่จากบนข้อมือและความเร่งที่ทำให้เกิดแรงกระแทก จึงสามารถส่งการแจ้งเตือนหาผู้ใช้หลังการล้มได้ ซึ่งผู้ใช้สามารถปิดทิ้งหรือเลือกโทรหาบริการช่วยเหลือฉุกเฉินได้ทันที
หาก Apple Watch ตรวจพบว่าไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นเวลา 60 วินาทีหลังมีการแจ้งเตือน Apple Watch จะโทรหาบริการฉุกเฉินโดยอัตโนมัติและส่งข้อความพร้อมระบุตำแหน่งไปยังผู้ติดต่อฉุกเฉินของคุณ
watchOS 5 ทำให้ Apple Watch Series 4 กลายเป็นคู่หูด้านฟิตเนสและการออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม ผู้ใช้ Apple Watch สามารถท้าทายผู้ใช้รายอื่น ๆ ให้มาแข่งขันทำกิจกรรมได้ การตรวจจับการออกกำลังกายโดยอัตโนมัติจะแจ้งเตือนให้เริ่มต้นออกกำลังกายและให้เครดิตย้อนหลัง
อีกทั้งยังมีการออกกำลังกายประเภทใหม่ คือ โยคะและปีนเขา ซึ่งจะติดตามการเผาผลาญแคลอรี่ที่ใช้และระยะเวลาการออกกำลังกายอย่างแม่นยำ ผู้ที่รักการวิ่งจะได้ใช้ประโยชน์จากแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้นอีก 6 ชั่วโมง
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการออกกำลังกายกลางแจ้งและเพลิดเพลินกับคุณสมบัติอันทรงประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการนับก้าวสำหรับการวิ่งทั้งในร่มและกลางแจ้ง การแจ้งเตือนฝีเท้าสำหรับการวิ่งกลางแจ้ง และการวัดค่าใหม่ที่จะแสดงค่าการวิ่งในระยะก่อนหน้านี้แบบทันที
ด้วยวอล์คกี้ทอล์คกี้ ลูกค้าสามารถติดต่อกับเพื่อน ๆ ได้ด้วยการแตะบนข้อมือ การเชื่อมต่อระหว่างนาฬิกาซึ่งเป็นวิธีการสื่อสารแบบใหม่สำหรับผู้ใช้ Apple Watch ทั่วโลกผ่าน Wi-Fi หรือเซลลูลาร์ หน้าปัด Siri แสดงการคาดการณ์และทำงานแบบเชิงรุกได้มากขึ้น โดยจะแสดงทางลัดและคอนเทนต์ที่สามารถใช้งานได้จากแอปฯ โปรด
watchOS 5 ทำให้ผู้ใช้สามารถฟังพ็อคคาสท์รายการโปรดในขณะเดินทางด้วย Apple Podcasts บน Apple Watch และสตรีมพ็อคคาสท์ที่อยู่ในแค็ตตาล็อกได้ตามต้องการโดยใช้ Siri
กลไกหน้าปัดบน Apple Watch Series 4 ที่ปรับแต่งใหม่แสดงรายละเอียดจากแอปฯ ที่มีประโยชน์ได้มากกว่าเดิม เช่น Dexcom ที่ตรวจวัดระดับน้ำตาลกลูโคสอย่างต่อเนื่อง หรือ Streaks ที่แสดงความก้าวหน้าในการออกกำลังกายประจำวันได้
Apple Watch Series 4 (รุ่น GPS) และ Apple Watch Series 4 (รุ่น GPS + Cellular) ได้รับการอัพเดทดีไซน์และคุณสมบัติด้านสุขภาพใหม่ นอกจากตัวเรือนอะลูมิเนียมชุบผิวที่มีให้เลือก 3 สีได้แก่ สีเงิน สีทอง และสีเทาสเปซเกรย์ที่คุ้นตากันดีอยู่แล้ว
Apple Watch Series 4 รุ่นนี้ยังมาในสีทองสะดุดตาตัวเรือนทำจากสแตนเลนสตีลซึ่งเข้าคู่กับสายแบบ Milanese อย่างลงตัว และรุ่นสแตนเลสสตีลยังมีสีเงินและสีดำสเปซแบล็คให้เลือกอีกด้วย สายคอลเล็กชั่นใหม่จะที่เปิดตัวในปีนี้และสายรุ่นอื่น ๆ ทั้งหมดจะยังคงใช้งานได้กับ Apple Watch ทุกรุ่น
Apple Watch Nike+ ยังคงเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าและคอลเล็กชั่นใหม่นี้มาพร้อมหน้าปัดนาฬิกา Nike ที่ออกแบบใหม่ให้เข้ากับสายสีใหม่ ได้แก่ สาย Sport Band สี Pure Platinum/Black และสาย Sport Loop สี Summit White แบบสะท้อนแสง Apple Watch Hermès เปิดตัวสายอันงดงามแบบสลับโทนสีพร้อมหน้าปัดนาฬิกาใหม่สุดพิเศษที่แบ่งเป็นสองสีตามแนวทะแยงของเข็มนาฬิกา
Apple มีการปฏิวัติเทคโนโลยีสำหรับส่วนบุคคลด้วยการเปิดตัวเครื่อง Macintosh ในปี 1984 ในวันนี้ Apple คือผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมด้วย iPhone, iPad, Mac และ Apple Watch สี่แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ของ Apple — iOS, OS X, watchOS และ tvOS — ให้ประสบการณ์ที่ราบรื่นในทุกอุปกรณ์ Apple
และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับบุคคลด้วยบริการที่ก้าวล้ำรวมถึง App Store, Apple Music, Apple Pay และ iCloud พนักงานของ Apple นับแสนคนทุ่มเทสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในโลกเพื่อให้โลกเป็นโลกที่ดีกว่า