fbpx
KNOWLEDGE

4K vs. UHD ความเหมือนที่แตกต่าง

ในเวลานี้จอภาพ 4K ได้กลายเป็นกระแสหลักสำหรับผู้บริโภคทั่วไปแล้ว ทว่ามีคำอยู่ 2 คำคือ 4K และ UHD (Ultra High Definition) ที่บรรดาผู้ผลิตทีวี ผู้แพร่ภาพกระจายเสียง และบรรดาบล็อกสายเทคโนโลยีต่างใช้ 2 คำเหล่านี้แทนกัน

ทว่าที่มาแต่แรกเริ่มของ 2 คำนี้มิได้มีความหมายเดียวกัน และในทางเทคนิคแล้วมันก็ยังคงไม่ใช่สิ่งเดียวกัน

จากมุมมองของผู้ชม ความแตกต่างของ 2 คำนี้อาจไม่ใช่สาระสำคัญ ในปัจจุบันคำว่า 4K อาจถูกพูดถึงมากกว่าคำว่า UHD แต่บางครั้งไดรฟ์ Blu-ray คุณภาพสูงจะถูกวางตลาดในชื่อ 4K Ultra HD คือเลือกใช้ทั้ง 2 คำไปเลย

4K vs. UHD
วิธีที่ง่ายที่สุดในการแยกแยะความแตกต่างระหว่าง 4K และ UHD คือ 4K เป็นมาตรฐานการผลิตและภาพยนตร์ระดับมืออาชีพ ในขณะที่ UHD เป็นมาตรฐานการแสดงผลและการออกอากาศสำหรับผู้บริโภค หากต้องการทราบว่ามันทำให้เกิดความสับสนอย่างไร ให้ดูที่ประวัติความเป็นมาของคำศัพท์ 2 คำนี้ …

คำว่า “4K” เกิดขึ้นมาจากกลุ่ม Digital Cinema Initiatives (DCI) ซึ่งเป็นกลุ่มของสตูดิโอภาพยนตร์ที่พยายามสร้างมาตรฐานข้อกำหนดสำหรับการผลิตและการฉายภาพดิจิทัลที่เนื้อหามีรายละเอียดภาพระดับ 4K ซึ่งในกรณีนี้คือที่ความละเอียด 4,096 x 2,160 พิกเซล คิดเป็น 4 เท่าของมาตรฐานการตัดต่อและการฉายภาพดิจิทัลที่ใช้งานก่อนหน้านี้ (2K หรือ 2,048 x 1,080 พิกเซล)

ที่ความละเอียด 4,096 x 2,160 พิกเซล หมายถึงจำนวนพิกเซลในแนวนอน 4,096 หรือประมาณ 4 พันพิกเซล มาตรฐาน 4K นั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของความละเอียดภาพ เพราะว่ายังมีข้อกำหนดในเรื่องของการเข้ารหัสเนื้อหา 4K โดยการเข้ารหัส DCI 4K นั้นเลือกใช้การเข้ารหัสแบบ JPEG2000 ซึ่งมีบิตเรตสูงสุดเท่ากับ 250Mbps และมีความลึกของระดับสีในระดับ 12 บิต 4: 4: 4

สำหรับ UHD หรือว่า Ultra High Definition คือการต่อยอดจากคำว่า Full HD (FHD) ซึ่งเป็นชื่อเรียกอย่างเป็นทางการของภาพที่มีความละเอียด 1,920 x 1,080 พิกเซล สำหรับ UHD ซึ่งมีความละเอียดเป็น 4 เท่า หมายความว่ามีความละเอียดอยู่ที่ 3,840 x 2,160 พิกเซล ซึ่งไม่ใช่ตัวเลขเดียวกับความละเอียดของระบบภาพ 4K (4,096 x 2,160 พิกเซล) ที่ได้พูดถึงก่อนหน้านี้

ดังนั้นสมาร์ททีวีหรือจอมอนิเตอร์ส่วนใหญ่ที่ได้โฆษณาว่าให้ภาพในรูปแบบ 4K ในความเป็นจริงแล้วมันคือ UHD แน่นอนว่ามีจอแสดงผลบางรุ่นที่มาพร้อมความละเอียดภาพ 4,096 x 2,160 พิกเซล จริง ๆ ซึ่งมีอัตราส่วนของภาพเพิ่มขึ้นเป็น 1.9:1 (17.1:9) ขณะที่จอส่วนใหญ่นั้นมีความละเอียดที่ 3,840 x 2,160 พิกเซล โดยมีอัตราส่วนภาพอยู่ที่ 1.78:1 (16:9)

4K vs. UHD the different you should know
ไดอะแกรมที่แสดงขนาดภาพที่สัมพันธ์กันของ 4K กับ 1080p — ยกเว้นว่า 4K ควรมีป้ายกำกับ UHD หรือ 2160p

เหตุใดจึงไม่ (อยาก) ใช้ 2160p ?
ในเวลานี้ไม่ใช่ว่าบรรดาผู้ผลิตทีวีนั้นไม่ทราบถึงความแตกต่างระหว่าง 4K และ UHD ทว่าน่าจะด้วยเหตุผลทางการตลาด ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยึดติดกับคำว่า 4K มากกว่า

แต่เพื่อไม่ให้ขัดแย้งกับมาตรฐาน 4K ที่แท้จริงของ DCI ผู้ผลิตทีวีบางรายจึงเลือกใช้เป็น “4K UHD” ขณะที่บางรายนั้นก็เลือกใช้เป็น “4K” เพียงอย่างเดียว

เพื่อให้เกิดความสับสนมากขึ้นที่จริงแล้วคำว่า UHD ยังแบ่งใช้เป็น 2 กรณี คือ ภาพที่มีความละเอียด 3,840 x 2,160 พิกเซล และสำหรับภาพที่มีความละเอียดเพิ่มขึ้นเป็น 7,680 x 4,320 พิกเซล ก็ยังเรียกว่า UHD เหมือนกัน

ดังนั้นการเรียกโดยอ้างอิงถึงตัวแปรอื่นด้วยเป็น 4K UHD และ 8K UHD จึงมีเหตุผลที่น่าใช้งานมากกว่าเนื่องจากว่าไม่ทำให้เกิดความสับสนหรือเข้าใจผิดแน่ ๆ หากว่าต้องเรียกให้ถูกต้องมากยิ่งขึ้น คำว่า 8K UHD น่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น QUHD (Quad Ultra HD) มากกว่า

ความจริงทางออกที่แท้จริงน่าจะเลิกใช้คำว่า 4K ไปเลย และเลือกใช้เป็นคำว่า 2160p แทน โดยความละเอียดในการแสดงผลและการออกอากาศมักอ้างถึงตัวเลขความละเอียดในเส้นแนวนอนตามด้วยตัวอักษร “i” หรือ “p”

โดย “i” หมายถึงการสแกนภาพในแนวตั้งแบบ interlacing และ “p” ซึ่งหมายถึงการสแกนภาพในแนวตั้งแบบโปรเกรสซีฟ เช่น 576i (PAL), 480i (NTSC), 576p (DVD), 720p, 1080i, 1080p เป็นต้น

แต่เหตุผลที่ไม่เป็นเช่นนั้นก็คือ จำนวนตัวเลขมันไม่ตรงกับความละเอียดที่เพิ่มขึ้น เช่น “2160p” หากดูเพียงตัวเลขเหมือนว่ามันมีความละเอียดเพิ่มจาก 1080p แค่ 2 เท่า ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วมันเพิ่มขึ้น 4 เท่า

ที่น่าสับสนกว่านั้นคือ ในความเป็นจริงจอแสดงผลส่วนใหญ่ยืนยันความละเอียดในแนวตั้งที่ 2160p แต่ไม่ได้การันตีว่าความกว้างในแนวนอนนั้นมีความละเอียดเป็น 3,840 หรือ 4,096 พิกเซล ในเว็บไซต์ของ Newegg มีข้อมูลของจอแสดงผลไม่กี่รุ่นเท่านั้นที่เป็นจอ 4K จริง ๆ คือมีความละเอียดที่ 4,096 x 2,160 พิกเซล ซึ่งสังเกตได้ว่าจอเหล่านั้นมีราคาค่อนข้างสูง และเน้นกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้งานเป็นลูกค้าในสายงานมืออาชีพเป็นหลัก

ในเวลานี้มีทีวี 4K อยู่ทุกหนทุกแห่ง จึงต้องใช้ความพยายามร่วมกันจากผู้ผลิตทีวีรายใหญ่อย่างน้อยหนึ่งรายช่วยรณรงค์ให้เลือกใช้คำว่า 4K แล้วหันมาใช้คำว่า UHD แทน


ที่มา: extremetech

กองบรรณาธิการ AV Tech Guide

สื่อออนไลน์ที่มีเนื้อหาครอบคลุมเกี่ยวกับเทคโนโลยีนวัตกรรมในกลุ่มสินค้าเครื่องเสียงไฮไฟ โฮมเธียเตอร์ ไอทีมัลติมีเดีย ตลอดจนสินค้านวัตกรรมอื่น ๆ ที่มีอิทธิพลต่อไลฟ์สไตล์ของผู้คนทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต ดำเนินงานโดยทีมงานมืออาชีพ